THE MOON ปฏิบัติการณ์พิชิตจันทร์ หนังไซไฟฟอร์มยักษ์จากเกาหลี ที่จะพาทุกท่านไปตื่นตาตื่นใจ สู่ห้วงอวกาศและระบบสุริยะ ซึ่งคราวนี้ได้นักแสดงนำน่าสนใจอย่าง ซอล คยองกู,คิม ฮี-แอ และ โด คยองซู และยังมีนักแสดงร่วมอีกมากมาย ความอลังการในซีจีและงานสร้างกับธีมเกี่ยวกับเรื่องราวการเอาตัวรอดในชีวิตจากดวงจันทร์แบบนี้ ถือว่าทำออกมาได้ลุ้นตัวโก่งกันเลยทีเดียว เพื่อเอาใจช่วยให้นักบินอวกาศนายนี้กลับมาให้ได้
ข้อมูลทั่วไปของหนังเรื่อง THE MOON
- ชื่อภาพยนตร์ : THE MOON ปฏิบัติการพิชิตจันทร์
- ผู้กำกับ : คิมยงฮวา
- นักแสดงหลัก : ซอลกยองกู, โดคยองซู, คิมฮีแอ
- แนวภาพยนตร์ : ผจญภัย / ไซไฟ
- วันที่ออกฉาย : 24 สิงหาคม 2023
เรื่องย่อ THE MOON
สำหรับเรื่อง THE MOON ปฏิบัติการณ์พิชิตจันทร์ จะเล่าถึงเหตุการณ์การสำรวจดวงจันทร์ของนักบินอวกาศหนุ่มอย่าง ฮวังซอนอู ที่ออกเดินทางไปด้วยตัวคนเดียว ซึ่งภารกิจครั้งนี้ทำให้เขาต้องห่างจากโลกถึง 384,000 กิโลเมตร จนกระทั่งในระหว่างการติดต่อรอความช่วยเหลือในฝั่งภาคพื้นดิน ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อฮวังซอนอูและยานลำนี้กำลังถูกกระแสลมในห้วงอวกาศ ตามหลักระบบสุริยะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ทันได้คาดคิด สิ่งเดียวในตอนนี้คือการพยายามหาทางเอาตัวรอดและกลับมายังโลกเดิมให้ได้
เจาะรายละเอียดหนัง THE MOON
ยอมรับเลยว่าวงการภาพยนตร์ของทางเกาหลีก็มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์กันอยู่เรื่อยๆ ยิ่งกับเรื่อง THE MOON ปฏิบัติการณ์พิชิตจันทร์ ที่ไม่น่าเชื่อว่าหนังเกาหลีจะพาเราไปท่องอวกาศได้ไม่แพ้ฝั่งตะวันตกกันเลยทีเดียว ที่สำคัญเลยคือการที่มีงานสร้างยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ มันสะท้อนให้เห็นว่าวงการบันเทิงเกาหลียกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเห็นว่าเกาหลีเป็นราชาแห่งโลกตะวันออกแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดนิ่งจริงๆ เนื้อหาพล็อตก็น่าสนใจทีเดียว กับการเอาชีวิตรอดของหนุ่มนักบินอวกาศที่ถูกโจมตีจากลมในระบบสุริยะ
การแสดง
เริ่มที่ตัวละครหลักอย่าง ฮวังซอนอู ที่เป็นคนแบกเรื่อง ตัวละครที่เดินเรื่องหลัก พร้อมกับการถ่ายทอดอารมณ์ การแสดงต่างๆ ที่ทำได้ดีมากๆ ฝีมือของอดีตนักร้องวงดัง EXO อย่าง ดีโอ หรือ โด คยองซู ที่มารับบทนี้ถือว่าน่าทึ่งอยู่เหมือนกัน เพราะแอคติ้ง การแสดงอารมณ์ สีหน้า ท่าทาง แววตา ดูสมูท ลื่นไหลมากๆ เราจะเห็นมุมกล้องของเรื่องนี้ที่แพลนใบหน้าของนักแสดงคนนี้อยู่ตลอด แถมยังมีเสียงของตัวละครหลักที่ช่วยพยุงฉากประกอบไปด้วย เลยรู้สึกว่ามันดูเรียลมากกับการเห็นคนหนึ่งๆ ต้องเอาชีวิตรอด ความกลัว ความโกรธ อารมณ์ดีใจ และอีกมากมาย
รวมถึง ซอล คยองกู ที่ฝีมือไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะเล่นบทผู้นำ การสั่งการ ที่ดูดุดันและน่าเกรงขามสมจริงมาก ฝั่งของทีมนักแสดงสมทบก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน เพราะประชันฝีมือกันอย่างมีคุณภาพมากๆ ความเล่นใหญ่ สายฮา ดราม่า หรือแบบไหนก็มาครบ แต่ละตัวละครคือมีคาแรคเตอร์ดี จำง่าย เช่น รัฐมนตรีที่ใครดูก็ต้องหมั่นไส้กันแน่นอน และ THE MOON ยังมีที่น่าสนใจอีกเยอะมากที่อยากให้ไปรับชมกัน
การกำกับและการผลิต
ผู้กำกับอย่าง คิมยงฮวา กับเรื่องราวในครั้งนี้ถือว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า ทั้งสองภาคนั้นได้ประสบความสำเร็จเกินคาด ซึ่งทำให้ครั้งนี้จึงเหมือนกลับมาพร้อมกับฝีมือที่คมคายยิ่งกว่าเดิม บวกกับการมีผลงานเก่ามาค้ำและคาดหวังสำหรับผู้ชมมากขึ้นด้วย แต่ก็นับว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี เราจึงไม่ได้เห็นแค่หนังไซไฟที่ขายความเป็นวิทยาศาสตร์จ๋าๆ ไปซะทีเดียว แต่จะได้รับชมบทตัวละครที่ค่อนข้างเชือดเฉือนอยู่ด้วย แถมยังดีไซน์ฉากต่างๆ ออกมาได้กดดันกับสถานการณ์ตรงหน้าสุดๆ เลยทีเดียว
บทภาพยนตร์
สำหรับในส่วนของเนื้อหานั้น THE MOON ถือว่าเดินเรื่องได้เอื่อยๆ ไปหน่อย แถมยังนานกว่า 2 ชั่วโมง ยิ่งเนื้อหาหลักๆ ครึ่งเรื่องคือการเอาชีวิตรอดอยู่กับบนดวงจันทร์ที่ว่างเหล่ากับตัวละครหลักอย่าง ฮวังซอนอู ที่การเดินทางสู่อวกาศครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คาดคิด มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งจะมาแทรกอารมณ์ของผู้ชม แถมยังมีการเสียดสีเชื้อชาติเข้ามาด้วย เนื้อหาต่างๆ และการแสดงถือว่าดีส่งรับกับตัวบทดีมาก ทำให้หลายครั้งเราเผลอเอาใจช่วยตัวละครในเรื่องเหมือนกัน ที่สำคัญคือการไม่ได้เล่าเนื้อหาแค่ในพาร์ทของการเอาชีวิตรอดบนดวงจันทร์แค่ทางเดียวเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์ของตัวละครที่ทำให้เราได้ลุ้น ได้ติดตาม ลุ้นระทึกพร้อมกันแบบนี้ ตื่นตาตื่นใจในแต่ละฉาก แต่บางพาร์ทก็ยังพอเดาทางได้อยู่
การถ่ายภาพและโปรดักชั่น
การถ่ายทำยังคงรักษามาตรฐานเกาหลีได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งมุมกล้อง การตัดต่อ การเปลี่ยนฉาก และการปรับสีวิดีโอ ล้วนลงตัวกับช่วงเวลาและฉากนั้นๆ ซีจีดีมาก ซาวด์ก็ใช้เหมาะกับโทน โดยเฉพาะมุมกล้องและฉากภายในยานอวกาศที่ทำออกมาได้ดีเยี่ยม มุมกล้องหมุนๆ วนๆ ไปพร้อมกับตัวละครที่ลอยอยู่ภายในยาน หรือแม้กระทั่งฉากที่เผชิญกับพายุสุริยะ ฉากภายในยานที่ได้รับความเสียหายบางส่วนและโทนสีภาพก็ค่อยๆ หม่นลงเรื่อยๆ ซึ่งภาพที่เราจะเห็นยานอวกาศด้านนอกและมุมกว้างของอวกาศยังลอยๆ ไม่ค่อยสมจริงไปสักหน่อย องค์ประกอบอื่นๆ เช่น ห้องปฏิบัติการและหอดูดาวก็ทำได้ดี โดยใช้สถานที่เพียงเล็กน้อยแต่ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าอย่างมาก
ธีมและประเด็น
THE MOON มีธีมหลักที่ค่อนข้างน่าสนใจ กับการเดินทางสำรวจดวงจันทร์ของทีมเกาหลี ไปสู่ดวงจันทร์แบบมีลูกเรือแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่อะไรที่เดินทางไปดวงจันทร์ง่ายขนาดนั้น เพราะเคยส่งยานไปแล้วอย่าง นาแรโฮ ที่ไปสำรวจแล้ว แต่ดันมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการผูกปมเรื่องได้น่าติดตามมาก เพราะไม่ใช่ว่าเป็นการสำรวจครั้งแรกซะทีเดียว มันเลยทำให้มีเรื่องราวก่อนหน้ามาปะติดปะต่อเข้ากันด้วย ซึ่งนำเสนอได้สนุกและน่าติดตาม ได้ลุ้นระทึกตามสไตล์ของหนังเข้มข้นฉบับเกาหลีทีเดียว
ความประทับใจส่วนตัว
รู้สึกได้ว่า THE MOON ปฏิบัติการณ์พิชิตจันทร์ น่าจะเป็นหนังเกาหลีฟอร์มยักษ์อีกเรื่องที่เน้นการเล่าเนื้อหาเข้มข้น มีชั้นเชิงกับการวางปมปัญหาที่เกิดขึ้น มีช่วงพีคจุดไคลแมกซ์ให้ได้ลุ้นได้ติดตาม แล้วจบด้วยการคลายปมปัญหาต่างๆ จนสามารถเชื่อมเรื่องราวกันได้ในตอนจบ ก็ถือว่าเดินเรื่องและเนื้อหาดี ไม่มีอะไรย้อนแย้งกันเลย มีความสมเหตุสมผลในหลักเหตุต่างๆ ทำการบ้านได้ดีทีเดียว และแฝงเกี่ยวกับประเด็นความรักชาติมานิดหน่อย ทีมนักแสดงก็ดีเลย ถ่ายทอดอารมณ์ท่าทางลื่นไหล สมจริง สนุก ลุ้นระทึก ได้ตื่นเต้น และฟีลแบบสมจริงจากงานโปรดักชั่นคุณภาพคับจอ มาตรฐานดีเลยทีเดียว
คะแนนการประเมิน
IMDb 5.9/10
ภาพรวม 8/10
การเล่าเรื่อง 7/10
การแสดง 10/10
เทคนิคงานสร้าง 8/10
บทภาพยนตร์ 7/10
เปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่น
THE MOON ปฏิบัติการณ์พิชิตจันทร์ ถ้านำเอาไปเทียบกับเรื่องอื่นๆ แนวไซไฟ ตะลุยอวกาศแบบนี้ที่มีค่อนข้างเยอะมาก และมาตรฐานหลายเรื่องก็ค่อนข้างสูง จึงยังไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะเราเห็นไซไฟมาแล้วหลายเรื่องที่ทำออกมาได้ลุ้นหนักกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Gravity จากทางฝั่งตะวันตก และอีกหลายเรื่อง ที่ต้องยอมรับว่าเหนือชั้นต่างกันมาก แต่สำหรับเรื่องนี้มีเรื่องที่ดีตรงที่ทีมนักแสดงแสดงดี อินเนอร์เข้าถึง และตัวบทที่เข้มข้นตามสไตล์หนังฝั่งเกาหลีที่เป็นซิกเนเจอร์อยู่แล้ว
สรุปการรีวิวหนังเรื่อง THE MOON
โดยรวมนั้นถือว่า THE MOON ปฏิบัติการณ์พิชิตจันทร์ เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ ทริลเลอร์ ที่อาจจะไม่ได้ขายความแปลกใหม่อะไรขนาดนั้น มีพื้นฐานของเรื่องราวผจญอวกาศสนุกโอเคดีเลย แต่ความแปลกใหม่นั้นจะยกให้กับเรื่องของความเป็นเกาหลี มีนักแสดงเกาหลีซะมากกว่า เพราะแปลกตาตรงนี้อยู่เหมือนกัน แต่ชั้นเชิงของความเป็นไซไฟวิทยาศาตร์ล้ำๆ นั้นอาจจะยังคาดหวังไม่ได้มากขนาดนั้นซะทีเดียว ยังไงจะชื่นชอบหรือไม่นั้นต้องลองไปติดตามรับชมกันดูก่อนได้เลย