Wonka (2023) วองก้า หนังแนวแฟนตาซี feel good

การแสดงของ ทีโมธี ชาลาเมต์

Wonka วองก้า ภาพยนตร์แฟนตาซีระดับตำนานในดวงใจของเด็กๆ ยุค 2000 ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2023 นี้ ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งแน่นอนว่าการมาครั้งนี้ไม่ได้เล่าเรื่องราวต่อจากเดิม แต่สตอรี่จะพาเราไปพบกับเรื่องราวจากอดีตของเจ้าของโรงงานช็อกโกแลตคนนี้กันว่า ชาร์ลี มีชีวิตในวัยเด็กอย่างไร และเริ่มต้นการผจญภัยในโรงงานของหวานกว่าจะมาเป็นโรงงานสุดใหญ่โตที่เด็กๆ ชื่นชอบมาได้อย่างไรนั้น บอกเลยว่าห้ามพลาดและติดตามรับชมกันให้ได้สำหรับแฟนคลับของเฟรนส์ไชส์หนังเรื่องนี้

ข้อมูลทั่วไปของหนังเรื่อง Wonka

ชื่อภาพยนตร์ : Wonka (2023) วองก้า

ผู้กำกับ : พอล คิง

นักแสดงหลัก : ทีโมธี ชาลาเมต์, เคลาห์ เลน, โอลิเวีย โคลแมน, ฮิวจ์ แกรนท์

แนวภาพยนตร์ : แฟนตาซี / ผจญภัย / ตลก

วันที่ออกฉาย : 7 ธันวาคม 2023 (ในโรงภาพยนตร์)

เรื่องย่อ Wonka

เรื่องราวชีวิตของชายหนุ่มที่หลงรักในการทำขนมหวานช็อกโกแลต วิลลี่ วองก้า ที่ได้ใฝ่ฝันว่าอยากจะเปิดร้านขายช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียง จึงได้เดินทางมาถึงใจกลางเมือง แต่ก็พบว่าเมืองนี้มีแต่ร้านช็อกโกแลตเปิดเต็มไปหมด เขาจึงต้องฝ่าฟันพิชิตอุปสรรค เพื่อพิสูจน์ในความรักที่มีต่อช็อกโกแลต ขณะเดียวกันก็มีผู้คนและขโมยหัวโจกที่เข้ามาขัดขวางการทำงานของเขา และสุดท้ายก็ได้มาพบกับสาวน้อยคนหนึ่งที่มาสานฝันให้กับวองก้าครั้งนี้ได้เป็นจริง

การแสดง

การแสดงของ ทีโมธี ชาลาเมต์ ในเรื่องนี้ที่บอกเลยว่าทำให้เราได้เห็นความสามารถในการแสดง ที่ยืดหยุ่นและเล่นได้ทุกบทบาท สามารถสวมวิญญาณของวิลลี่วองก้าในช่วงวัยรุ่นได้ตรงตามลักษณะนิสัยที่คิดไว้ไม่มีผิด แสดงเสน่ห์แพรวพราวของวองก้าได้แบบเหลือล้น ถือว่าเป็นอีกผลงานที่ประทับใจสำหรับหนุ่มวัยรุ่นยุคใหม่คนนี้ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงเด็กมาร่วมด้วยทั้ง เคลาห์ เลน, คิมคาร์เตอร์ และ นาตาชา รอธเวลล์ ที่มาสร้างสีสันและ โอลิเวีย โคลแมน ที่ชวนหมั่นไส้จริงๆ พร้อมแก๊งกวนอย่าง คีแกน ไมเคิล คีย์ และ เพเตอร์สัน โจเซฟ สุดกวนประสาท และที่ขาดไม่ได้กับ โรแวน แอตคินสัน และ ฮิวจ์ แกรนท์

การกำกับและการผลิต

นี่คืองานสร้างสรรค์จากทางทีมผู้สร้างหนังทางฝั่งอังกฤษทั้งหมดเลยทีเดียว และอยู่ภายใต้การกำกับของผู้กำกับอย่าง พอล คิง ที่ มีฝีมือและชั้นเชิงในการเล่าเรื่องสไตล์ที่มีชีวิตชีวา ซึ่งแน่นอนว่าก็เข้ากับธีมของความเป็นวองก้าที่บ้าบิ่นสุดๆ แบบนี้ เมื่อผู้กำกับที่ถนัดในด้านนี้อยู่แล้วมาได้จับหนังในธีมนี้ ทุกอย่างเลยออกมาดีมีคุณภาพ องค์ประกอบต่างๆ ก็ดูเข้ากันไม่ขาด ไม่เกิน และไม่ล้นเลย

บทภาพยนตร์ Wonka

ผู้กำกับอย่าง พอล คิง เขายังได้มารับหน้าที่ในการวางโครงเรื่องครั้งนี้ ซึ่งก็ได้ผู้ช่วยมือดีที่มาร่วมเขียนบทอย่าง ไมซอม ฟาร์นาบี ที่เคยได้ร่วมงานมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Paddington 2 เลยดูจะเข้าขากันดีทีเดียว และเราก็ได้เห็นว่าบทหนังของเรื่องนี้ถือว่าดูง่าย ไม่มีหักมุมอะไรซับซ้อน และยังมีแต่จังหวะลีลาที่ทำให้ผู้ชมได้สนุกจอยไปได้ทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็รับชมได้ แต่ถึงแม้ว่าบทหนังแบบนี้จะดูเป็นมุกเดิมๆ ไม่ได้มีอะไรใหม่น่าสนใจ แถมพล็อตก็ค่อนข้างเชย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นอะไรที่ขายง่าย คนดูย่อยง่าย สร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้จดจำเรื่องราวไม่ลืม แม้จะรับชมจบแล้วก็ตาม

การถ่ายภาพและภาพสวย

พูดถึงเรื่องงานภาพและเทคนิคการถ่ายทำ ก็ถือว่าจัดอยู่ในระดับมาตรฐานสูงทีเดียว ทั้งฉาก สี เสียง รวมไปถึงงานโปรดักชั่น ดีไซน์ต่างๆ ที่สดใส และสีสันฉูดฉาดมาก ความแฟนตาซีแบบมาเต็ม ชวนให้เราได้เหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ ซึ่งก็เป็นแก่นสำคัญของรายละเอียดที่ช่วยในการขับเคลื่อนเรื่องราวของ วองก้า มาได้ทุกภาคจนกลายเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว ที่สำคัญบางฉากที่เสริมเทคนิคพิเศษใส่เข้ามาด้วยก็ช่วยดันอรรถรสในการรับชมมากยิ่งขึ้นไปอีก เชื่อว่าถ้าขาดงานเทคนิคในส่วนนี้ไปเรื่องคงดูจืดชืดไม่น้อย

เสียงและดนตรี

ไฮไลท์สำคัญที่ถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์คนดู คือบทเพลงที่นำมาประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะจะเรียกว่าเป็นตัวขโมยซีนเลยก็ว่าได้ แต่ละเพลงเข้ากับจังหวะเต้น ร้อง เล่น แถมเพราะจนมันเข้ากันไปหมด ซึ่งเพลงก็อิงเข้ากับเส้นเรื่องที่กำลังดำเนินไปอยู่พอดี ทำให้คิดได้ว่า การที่อะไรมันพอดีได้ขนาดนี้ เท่ากับว่าทางทีมงานและผู้กำกับมีการทำการบ้านที่ใส่ใจมากทีเดียว

ธีมและประเด็น

ถึงแม้ตัวละครที่เราคุ้นเคยอย่าง วองก้า จะไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่สำหรับวงการภาพยนตร์อีกแล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าเป็นตัวละครในตำนานของนักเขียน โรอาลด์ ดาห์ล ที่กลับมาโลดแล่นได้อีกครั้ง แม้เรื่องราวเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จะเป็นนักแสดงมืออาชีพอย่าง จอห์นนี เดปป์ ที่ได้ฝากผลงานเอาไว้ หรือจะเป็นเวอร์ชั่นต้นฉบับคลาสสิคตั้งแต่ปี 1971 ที่เชื่อว่ายังคงตราตรึงอยู่กับความทรงจำของผู้คนทั่วโลก พอมาในเวอร์ชั่นนี้ก็ถือเป็นการต่อเติมเรื่องราวจากตำนานเดิมที่มีอยู่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยการเจาะประเด็นที่เล่าถึงจุดกำเนิดและที่มาที่ไปของ วองก้า ว่าก่อนที่จะมาเป็นโรงงานช็อกโกแลตใหญ่โต เขาเคยเป็นใคร มีตัวตนอย่างไร และผ่านอะไรมาบ้าง

ความประทับใจส่วนตัว

โดยรวมนั้นถือว่า Wonka เป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่ทำให้รู้สึกอิ่มเอมจิตใจ รับชมได้ทุกเพศทุกวัย และเป็นการนำตำนานความทรงจำในวัยเด็กกลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง แม้จะมีพล็อตเรื่องที่ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังเอ็นจอยไปกับความสนุก ความบันเทิงได้ดี ได้ชมผลงานจากนักแสดงคุณภาพ อีกทั้งยังมีบทเพลงเพราะๆ จังหวะสนุกๆ พร้อมกับเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ที่ชวนแอบน้ำตาซึม ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ให้ความอิ่มอกอิ่มใจ และครบรสเลยทีเดียว

คะแนนการประเมิน

  • IMDb 7/10
  • ภาพรวม 8/10
  • การเล่าเรื่อง 8/10
  • การแสดง 8/10
  • เทคนิคงานสร้าง 8/10
  • บทภาพยนตร์ 7/10

 

เปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่น

เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ภาคก่อนหน้าอย่างเรื่อง ชาร์ลีกับโรงงานช็อกโกแลต Charlie and the Chocolate Factory (2005) ก็ต้องบอกว่าเป็นผลงานที่พัฒนาขึ้นในหลายด้าน ทั้งงานภาพ โปรดักชั่น ที่อลังการและสมจริงกว่าเดิม บทหนังที่มีความคมคายมากขึ้น ซึ่งก็น่าจะต้องติดตามให้ได้สำหรับใครที่เป็นแฟนหนัง หรือเคยรับชมภาคก่อนหน้านี้มาแล้ว เนื่องจากเนื้อหาในภาคนี้จะเป็นเรื่องราวที่ย้อนไปในช่วงของ วองก้า ตอนที่กำลังเป็นเด็ก และเราจะได้รู้ถึงที่มาที่ไปของตัวละครสำคัญตัวนี้มากยิ่งขึ้น

Categories