Red Life เรดไลฟ์ หนังรักดราม่ากับวังวนแห่งความหดหู่ สะท้อนชีวิตสลัม ใจกลางกรุงแบบเรียลๆ

หนังรักดราม่ากับวังวนแห่งความหดหู่ สะท้อนชีวิตสลัม

Red Life เรดไลฟ์ ภาพยนตร์ไทยที่มาในธีมสุดดาร์คตีแผ่สังคม และมุมมองความรักของสาวขายบริการ รวมถึงสังคมของกลุ่มชายที่สังคมเกินเยียวยา นี่คือหนังโรแมนติกดราม่า ที่จะมาตีแผ่ชีวิตจริงของสาวโสเภณี ที่หลังจากพ้นช่วงวัยกลางคนไปแล้ว และยังมีมุมมองในเรื่องของอาชีพขายบริการ ที่ทำให้หนังมีความมืดเทา หลากหลายอารมณ์ด้วยกัน บวกกับความรักของตัวละครที่ซ่อนกลิ่นร้าย มืดมน จนเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจ

ข้อมูลทั่วไปของหนังเรื่อง Red Life

ชื่อภาพยนตร์ : Red Life เรดไลฟ์

ผู้กำกับ : เอกลักญ กรรณศรณ์

นักแสดงหลัก : ธิติ มหาโยธารักษ์, สุพิชชา สังขจินดา, กานต์พิชชา พงษ์พานิช

แนวภาพยนตร์ : ดราม่า

วันที่ออกฉาย : 2 พฤศจิกายน 2023

เรื่องย่อ Red Life

RedLife เรดไลฟ์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสลัมคนหนึ่ง ที่โตมาเป็นแค่โจรธรรมดาๆ ลักขโมยไปวันๆ ที่ในตอนนี้กำลังจะหาเงินมาสร้างชีวิตร่วมกับ มายด์ สาววัยรุ่นที่ทำอาชีพขายบริการทางเพศ แต่ดูเหมือนยิ่งทุ่มเทให้กับความรักมากเท่าไรก็ยิ่งจะลำบากกับชีวิตของทั้งคู่มากขึ้นเท่านั้น ขณะเดียวกันลูกสาวคนเดียวของอ้อยที่เธอทำอาชีพโสเภณีมีชื่อว่า ส้ม ก็ดันไปชอบกับ พีช รุ่นพี่ไอดอลสาวสวยที่มีปมปริศนาบางอย่างชวนให้สงสัย จนทำให้ส้มนั้นได้รู้ว่าการรักใครสักคนคงต้องแลกด้วยอะไรหลายอย่างที่เหนือความคาดหมาย

เจาะรายละเอียดหนังเรื่อง Red Life

บอกตามตรงว่าสำหรับ Red Life เรดไลฟ์ นั้นแม้จะมีธีมเรื่องราวเกี่ยวกับอาชีพ Sex Worker ในตัวอย่างภาพยนตร์ แต่พอรับชมเนื้อหาจริงๆ ก็ได้รู้ว่าหนังไม่ได้ลงรายละเอียดมากขนาดนั้น เราอาจจะไม่ได้เห็นในแง่มุมของรายละเอียดการทำงานของคนอาชีพนี้ รวมไปถึงชีวิตประจำวัน ปัญหาที่ไม่ถูกยอมรับในสังคม ประเด็นพวกนี้ถือว่ามีน้อยมากในโครงเรื่อง เลยค่อนข้างจะผิดหวังไปหน่อย แต่ลองมาดูในด้านอื่นกันบ้างดีกว่า

การแสดง

ด้านการแสดงของ Red Life เรดไลฟ์ นั้นก็สมมตรฐานอยู่แล้ว เพราะทีมนักแสดงแต่ละคนมีทั้งหน้าใหม่และมากฝีมือ และคาแรคเตอร์ตัวละครก็มีความพอดี ไม่ล้นหรือน้อยเกินไปเมื่อนำมาเข้ากับบทพูด และการสื่อสาร ซึ่งตัวละครอย่างเต๋อที่รับบทโดย ธิติ แบงค์ นักแสดงที่ต้องชื่นชมเลยว่าเก็บรายละเอียดดีมาก อารมณ์ตัวละครเล่นได้สมูทลื่นไหลต่อเนื่อง มีหลายแง่มุมที่ผู้ชมจะได้คิดตามไปด้วย ในขณะที่อีกตัวละครเด่นอย่าง มายด์ สาวโสเภณี ที่เล่นโดย จ๋อมแจ๋ม กานต์พิชชา ซึ่งก็ออกแบบคาแรคเตอร์มาได้ดี ท่าทางก็โอเคลื่นไหล แต่การตัดต่อในส่วนของการขายบริการมันยังไม่สมูทเท่าไรแค่จุดเดียวเลยไม่ค่อยสมจริง

อีกส่วนที่ต้องชื่นชมเลยคือ ปู กรองทอง นักแสดงรุ่นใหญ่ในบทของ อ้อย แม่ส้มที่ทำให้เราได้เห็นถึงความเป็นแม่จริงๆ ยอมทุกอย่างได้เพื่อลูก และไม่อยากให้ลูกสาวต้องเดินไปทางที่ผิดเหมือนกับตัวเอง ซึ่งตัวลูกสาว ส้ม ที่เล่นโดย ซิดนีย์ สุพิชชา  ก็ได้เห็นแววเลยว่านักแสดงหน้าใหม่ก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว แม้บางฉากจะเล่นเยอะจนล้นๆ ไปบ้าง แต่ถ้าจับที่สีหน้า การส่งอารมณ์อย่างเดียวแล้วก็ถือว่าผ่านเกณฑ์เลย เข้าใจในความรู้สึกตัวละครจริงๆ

การกำกับและการผลิต

ผู้กำกับหนัง Red Life เรดไลฟ์ นั้นบางท่านอาจจะไม่ได้คุ้นชื่อกันสักเท่าไรกับ เอกลักญ กรรณศรณ์ ที่มาคู่กับสตูดิโออย่าง BrandThink Cinema แต่ทว่ากลับทำการบ้านมาดีเกินคาด เพราะสามารถตีแผ่ความเรียลของสลัมในเมืองกรุงได้สมจริงแบบจริงๆ ตีความออกมาเป็นฉากและสภาพแวดล้อมของความเป็นสลัมที่ต้องแย่งกันอยู่แย่งกันกิน ความลำบาก ต่างๆ นาๆ ซึ่งมันสะท้อนแล้วส่งกลับไปหาตัวละครให้มีอิมแพ็คมากยิ่งขึ้นว่าพวกเขาก็โตมาแบบนี้ แถมยังสามารถกำกับโทนฉาก มู้ดของหนังในแต่ละซีนได้เข้ากันมากทีเดียว ค่อนข้างมีฝีมือและชั้นเชิงดีมากและอยากเห็นผลงานอีกหลายๆ เรื่องในอนาคต

บทภาพยนตร์

บทส่วนใหญ่ในเรื่อง Red Life เรดไลฟ์ นั้นมองว่าเราน่าจะได้รับชมเรื่องความรักมากกว่า ระหว่างตัวละครอย่าง มายด์ และ เต๋อ ที่ดูแล้วโลกไม่สวย เพราะทั้งบทที่ตัวละครหลักเป็นโจรห้าร้อย กับโสเภณีขายบริการสาว ก็ดูเหมือนว่าจะมีแต่อุปสรรคมากมาย ทั้งมุมมองของคนในสังคม และอีกมากมาย ทำให้ทั้งคู่เล่าผ่านความคิด และการใช้ชีวิต กลายเป็นปมความสัมพันธ์ที่เล่าออกมาได้ตลอดเรื่อง

อีกมุมหนึ่งของตัวละครอย่าง ส้ม สาววัยรุ่นโสเภณีที่ให้ผู้ชมได้เห็นว่าการดูแลลูกที่ไม่อยากให้เป็นแบบแม่ สภาพแวดล้อมการทำงานแบบนี้ ทำให้เราเห็นมุมมองการเลี้ยงลูกที่มาขยี้ปมปัญหาของตัวละคร และสะท้อนสังคมได้อีกมุมหนึ่งด้วย การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำอาชีพแบบนี้มันเป็นอย่างไรในสายตาผู้คน

การถ่ายภาพและโปรดักชั่น

ด้านโปรดักชันของเรื่อง Red Life เรดไลฟ์ ถือว่ามีการคุมโทนบรรยากาศดีมาก การใช้แสง สี โทนสี นั้นดีไซน์ออกมาได้ดาร์คๆ เข้ากับธีมเรื่องหนังดีเลยทีเดียว ยิ่งสถานการณ์ที่ต้องดิ้นรน สังคมไม่เหลียวแล ถ่ายทอดบทและมุมกล้องต่างๆ ดีมาก ซึ่งหนังจะใช้มุม Medium และระยะใกล้แบบ Close-up อยู่หลายฉากเลย เลยทำให้เราได้เห็นอารมณ์ตัวละครชัดเจนมากกับสีหน้า แววตา โคตรจะชัดละด้วยการที่ย้ำๆ มุมกล้องกับอารมณ์ตัวละครบ่อยมาก

ธีมและประเด็น

แม้หนังเรื่อง Red Life เรดไลฟ์ จะมีพล็อตจั่วหัวไว้ว่าเกี่ยวกับอาชีพโสเภณี แต่พอชมจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ขนาดนั้นเหมือนอย่างที่ขายไว้ มุมที่ว่าสะท้อนสังคมก็อาจจะไม่ได้กล้าพูดได้เต็มปาก เนื้อหาที่เล่าในเรื่องไม่ได้ให้ผู้ชมได้รู้สึกว่าเข้าไปเจาะลึกให้เราได้เห็นรายละเอียดของอาชีพนี้เลย ขณะเดียวกันอีกหนึ่งอาชีพอย่างโจรรายวันของเต๋อ ก็ยังดูขาดๆ เกินๆ เหมือนกัน การกระทำของตัวละครนี้หลายช็อตก็ไม่สมเหตุสมผล ไม่เชื่อมกันในฉาก แต่ด้านมุมมืดของหนังถือว่าสะสมให้เราได้รู้สึกคล้อยตามไปด้วยตลอดทั้งเรื่องเลย

ความประทับใจส่วนตัว

ส่วนตัวแล้วชอบในประเด็นหนังที่เล่นในเรื่องของความรัก ความสัมพันธ์ ที่มันดันมาเกิดขึ้นกับตัวละครที่มีสถาะแบบนี้ มันสะท้อนให้เห็นจริงๆ เลยว่าโลกเราที่ขับเคลื่อนด้วยทุนนิยม ทำให้หลายคนไม่ได้มีโอกาสสเข้าถึงที่ดีๆ แม้กระทั่งกับความรักที่ยังเข้าถึงไม่ได้ ความรักที่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเหตุผลมาจากแค่อาชีพที่พวกเขาเป็น แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เขาต้องมาเป็นอาชีพแบบนี้ ก็เพราะทุนนิยมและสภาพสังคมที่ทำให้ต้องไม่มีที่ยื่นนั่นเอง

คะแนนการประเมิน

IMDb : 6.6/10

ภาพรวม : 7/10

การเล่าเรื่อง : 7/10

การแสดง : 8/10

เทคนิคงานสร้าง : 7/10

บทภาพยนตร์ : 7/10

เปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่น

Red Life เรดไลฟ์ นำไปเทียบกับดราม่าเรื่องอื่นๆ ก็ถือว่าทำได้ดีไม่ต่ำกว้าเกณฑ์ ตีแผ่ความเรียลของตัวละครที่ต้องใช้ชีวิตแบบบปากกัดตีนถีบ ในวังวนสุดเท่าเฟะที่ยากจะถอนตัวออกมาได้ ความหดหู่ของชีวิต ความตลกร้าย ที่ทำได้ดีเลย เพียงแต่ว่าเราก็คงจะได้เห็นมาแล้วในหลายๆ เรื่องที่เล่นกับบทหนังประมาณนี้ เลยไม่ได้ทำให้รู้สึกว้าวขนาดนั้น ยังคงเป็นแบบเดิมๆ เพียงแต่เปลี่ยนลูกเล่นการนำเสนอใหม่ให้ผูกกับมุมมองเรื่องของความรัก ประเด็นความรักความสัมพันธ์มากขึ้นเท่านั้นเอง จริงๆ หากเจาะเข้าไปในดีเทลงานของตัวละครอาชีพเหล่านี้ด้วยน่าจะเพิ่มความน่าสนใจขึ้นมาได้อีกเยอะ

สรุปการรีวิวหนังเรื่อง Red Life

แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่ แต่ภาพยนตร์เรื่อง RedLife เรดไลฟ์ นี้ก็ยังคงถือว่าเด่นในเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ของคนทำอาชีพขายบริการอย่างลึกซึ้ง ทำให้ผู้ชมได้เห็นอุปสรรคและความเจ็บปวดที่คนทำอาชีพดังกล่าวนี้ต้องเผชิญ โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก ที่ทุกอย่างก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ซะหมดเลย ดังนั้นแม้ว่าการเล่าเรื่องจะยืดเยื้อ องค์ประกอบอื่นๆ ที่ขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าแย่ขนาดนั้นไปทีเดียว เพราะโดยรวมยังรับชมได้สนุก น่าติดตาม ทีมนักแสดงก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม ชัดเจน

Categories