Delete (2023) ดีลีต เมื่อโทรศัพท์ใช้ลบคนให้หายไปได้ ดราม่าไซไฟ ระทึกขวัญ สุดเข้มข้นจาก GDH

เมื่อโทรศัพท์ใช้ลบคนให้หายไปได้ ดราม่าไซไฟ

Delete อีกหนึ่งผลงานชั้นเยี่ยมจากทางค่ายดังอย่าง GDH ที่จัดได้ว่ามีเนื้อเรื่องที่สนุกและเข้มข้นอย่างมาก ประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนกลุ่มหนึ่ง ที่วันหนึ่งก็อยากจะลบให้ออกไปจากชีวิต และได้เริ่มต้นใหม่ ผ่านการใช้โทรศัพท์ประหลาด ที่เชื่อว่าสามารถลบคนออกจากชีวิตได้ และหายไปตลอดกาล แต่มันจะไม่ส่งผลกระทบอะไรจริงๆ หรือ และจะเป็นไปได้แค่ไหนต้องลองมาติดตามรับชม แต่บอกก่อนแล้วว่านี่คืออีกผลงานของผู้กำกับฝีมือสุดปังอย่าง ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่การันตีเรื่องดังจากจีดีเอชมาแล้วมากมาย

ข้อมูลทั่วไปของหนังเรื่อง Delete

  • ชื่อภาพยนตร์ : Delete ดีลีต
  • ผู้กำกับ : ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
  • นักแสดงหลัก : ณัฏฐ์ กิจจริต, ฟ้า ษริกา, ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์, ออกแบบ ชุติมณฑน์
  • แนวภาพยนตร์ : ไซไฟ / ดราม่า / ลึกลับ / เขย่าขวัญ
  • วันที่ออกฉาย : 28 มิถุนายน 2566

เรื่องย่อ Delete

Delete จะเล่าถึงเรื่องราวของความสัมพันธ์ต้องห้ามอย่าง เอม นักเขียนชื่อเสียงโด่งดังและ ลิลลี่ สาวสวยภรรยาของหนุ่มทรงดีทายาทเจ้าของฟาร์มยิ่งใหญ่อย่าง ทู ซึ่งในวันหนึ่งทั้งคู่ก็ได้พบกับโทรศัพท์ประหลาดที่ระบุว่าสามารถลบคนให้หายออกไปจากชีวิตได้ ทำให้ทั้งสองที่อยากเริ่มต้นใหม่ด้วยกันอยู่แล้ว จึงได้วางแผนเพื่อลบใครบางคนออกจากชีวิต แต่ทว่าการกระทำครั้งนี้มันกลับมีผลตามมาอย่างคาดไม่ถึง เมื่อปัญหาต่างๆ เริ่มถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และทั้งคู่จะเอาตัวรอดกับสถานการณ์ได้อย่างไรกันแน่

เจาะรายละเอียดหนังเรื่อง Delete

สำหรับซีรีส์เรื่อง Delete ที่ได้ฉายลงจอ Netflix เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 8 ตอน ประมาณตอนละ 40-50 นาที โดยจะเน้นการเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน และมันดีมากๆ จนทำให้อยากจะลบคนเก่าออกจากชีวิต เพื่อที่จะให้ตัวเองต้องรู้สึกผิดน้อยลง แต่ทว่ามันกลับกลายเป็นเงาตามตัวที่ดูเหมือนจะไม่ได้มีความสุขอย่างที่หวังไว้ บอกตามตรงว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างแปลกใหม่และน่าติดตามมาก ตัวบทมีความเทา กับความผิดในศีลธรรม และประเด็นต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกันด้วย

การแสดง

ชื่นชมตั้งแต่การแคสติ้งนักแสดงที่เลือกมาได้เหมาะกับบทของแต่ละตัวละครเลยทีเดียว การแสดงก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของนักแสดงแต่ละท่านกันอยู่แล้ว ทั้ง ณัฏฐ์ กิจจริต, ปีเตอร์ นพชัย และ ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ ที่เล่นบทยากก็ยังเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ฟ้า ษริกา ที่เราไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันแต่ถือว่าเคมีเข้ากันดีมากกับหนุ่มณัฏฐ์ หรือ ออกแบบ ชุติมณฑน์ ก็รับบทสาวเก่ง มั่นใจ แสดงดีทีเดียว โดยรวมแต่ละท่านถือว่าทำการบ้านในบทบาทของตัวเองมาดีมาก และเต็มที่กับงานจนได้ผลลัพธ์ที่สนุกมากเลยสำหรับ Delete เรื่องนี้

การกำกับและการผลิต

นับว่าเป็นผลงานอีกหนึ่งชิ้นของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่เคยฝากผลงานชื่อดังมาแล้วหลายเรื่อง ทั้ง ชัตเตอร์ (2004), แฝด (2007), 4 แพร่ง (2008), 5 แพร่ง (2009), และ โฮมสเตย์ (2018) เรียกว่าเด็ดๆ ทั้งนั้น ซึ่งในเรื่อง Delete ครั้งนี้ก็ถือว่าชั้นเชิงค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทั้งจังหวะต่างๆ บรรยากาศของเรื่อง และตัวบทที่จัดว่าแน่น องค์รวมหลายๆ อย่างรู้สึกว่าลื่นไหลดีมาก ค่อนข้างทำการบ้านมาอย่างดีเลยทีเดียวสำหรับผลงานในครั้งนี้

บทภาพยนตร์

Delete ถือว่ามีสตอรี่ที่ค่อนข้างจะเล่นกับความรู้สึกและอารมณ์ของผู้ชมมากทีเดียว จากการที่เราจะได้เห็นสถานการณ์ในการลบใครสักคนไปจากชีวิตแล้ว เอฟเฟกต์ที่ตามมาคือมันจะดีจริงๆ อย่างที่คิดไว้ใช่ไหม ความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัดสินใจกระทำลงไป เพราะการลบคนให้หายไปแบบนี้ต้องไม่ลืมว่ามีบุคคลที่อยู่ข้างหลังคนที่หายไปรอเขาอยู่มากมาย แต่การเลือกลบเขาไปแบบนี้ทั้งตัณหาและความเห็นแก่ตัวล้วนๆ จึงมีเรื่องของศีลธรรมมาเกี่ยวข้อง และผลกรรมที่ตามมา ความสนุกเข้มข้นนั้นจะมาจากการที่เราได้เห็นผลลัพธ์ของการกระทำที่ค่อยๆ ตามมา ออกมาทีละเรื่อง

การถ่ายภาพและโปรดักชั่น

สำหรับด้านโปรดักชั่นถือว่าค่อนข้างดี เริ่มตั้งแต่โลเคชั่นถ่ายทำที่เลือกมาได้เข้ากับโทนหนังมากๆ การใช้เฉดและทรงต่างๆ ที่มีสไตล์และไปโทนเดียวกัน ซาวด์ประกอบก็ทำให้เราได้ลุ้นดอมๆ กันทั้งเรื่องเลย จนฟีลหนังมันมาในทางสยองขวัญหน่อยๆ เลยก็ว่าได้ บางช็อตก็แอบรู้สึกว่าได้อารมณ์แบบหนังฮอลลีวูดได้เหมือนกัน

ธีมและประเด็น

Delete จะมีธีมที่เห็นได้อย่างชัดเจนในประเด็นของความเป็นโรแมนติก ดราม่า ไซไฟ ลึกลับ ที่แอบแทรกแอ็คชั่นไว้ด้วยนิดหน่อย แต่พอมารวมกันแล้วรู้สึกว่ามันลงตัวกันแบบพอดี มีการวิ่งหนี ไล่ลา ยิ่งฉากหลบซ่อนในทุ่งข้าวโพดถือว่าลุ้นจนแทบตัวโก่ง หายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว ซึ่งความยาว 8 ตอนถือว่ากำลังดีเลย การเปิดเรื่องในตอนแรกก็ทำให้น่าติดตาม ไม่เบื่อไม่ง่วงเลย โดยจะเล่าถึงโทรศัพท์ประหลาดที่สามารถลบคนให้หายไปได้ แถมยังไม่ได้บอกวิธีเอากลับคืนมาด้วย และค่อยๆ ปูความสัมพันธ์ของตัวละครเชื่อมกัน มีการเล่าอดีต สลับไปมากับปัจจุบันด้วย และตัวละครก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนเรื่องราวยิ่งซับซ้อนมากขึ้น

ความประทับใจส่วนตัว

มุมมองโดยรวมถือว่า Delete จะออกแนวซีรีส์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่มีกิมมิกโดยการใส่สตอรี่ที่เกี่ยวกับความไซไฟให้ได้ลุ้นระทึกด้วย มันเลยทำให้มีความเข้มข้นขึ้น และมีอะไรมากกว่าการเป็นแค่ซีรีส์ชู้รักผิดศีลธรรมแค่นั้นแล้วจบไปนั่นเอง ที่สำคัญคือทีมนักแสดงที่ต้องยกเครดิตให้เลยเพราะแต่ละท่านเล่นอย่างเข้าถึงอารมณ์มากๆ รับส่งบทและฟีลลิ่งตัวละครได้แบบแยบยลจริง ที่ไม่ชอบน่าจะเป็นในเรื่องของพล็อตช่วงท้ายที่ค่อนข้างหักมุมไปหน่อย จนดูแล้วรู้สึกมันคนละเรื่องกับที่ปูมาทั้งหมดได้เลยทีเดียว อีกอย่างคือประเด็นเรื่องกล้องมือถือที่ลบคนไปได้นั้นไม่ได้บอกที่มาที่ไปชัดเจน ปล่อยให้ผู้ชมงงๆ ไปซะอย่างนั้น

คะแนนการประเมิน

IMDb : 6.3/10

ภาพรวม : 8/10

การเล่าเรื่อง : 7/10

การแสดง : 9/10

บทภาพยนตร์ : 8/10

เปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่น

ส่วนตัวถือว่าทำได้มาตรฐานค่อนข้างดีเลยถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับเรื่องอื่นๆ ในค่าย GDH ทั้งทีมนักแสดง พล็อต บท งานโปรดักชั่น และองค์ประกอบหลายอย่าง มีศักยภาพของความเป็นหนังแนวดราม่า ทริลเลอร์ ได้ลุ้นระทึก น่าติดตาม แต่พอเป็นซีรีส์ก็ทำให้นึกถึงผลงานหลายเรื่องของทางค่ายนี้ที่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน พอเทียบกันแล้วรู้สึกว่าความน่าสนใจของ Delete จะอยู่ตรงที่การใส่ความเป็น ไซไฟ ทริลเลอร์ ที่เล่นประเด็นในเรื่องของการลบคนให้หายไปนั่นเอง เลยเป็นบทใหม่ที่ทำให้เส้นเรื่องมันน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

สรุปการรีวิวหนังเรื่อง Delete

สำหรับใครที่เป็นแฟนหนังของค่าย จีดีเอช และติดตามผลงานมาอยู่แล้ว ต้องบอกว่าห้ามพลาดกับ Delete เพราะค่อนข้างมีมาตรฐานที่ดีเลยทีเดียว เนื้อหาสนุก ลุ้นระทึก น่าติดตาม มีความผสมผสานกันระหว่างความเป็นโรแมนติกมีฉากเลิฟซีน มีดราม่าหนักหน่วง มีคิวแอ็คชั่นให้ได้ลุ้นระทึกขวัญด้วย ส่วนทีมนักแสดงก็ตัวเต็งจากทางค่าย GDH กันทั้งนั้น เรื่องการส่งอารมณ์ใดๆ เอย มาเต็ม เข้าถึงตัวละครแน่นอน โปรดักชั่นก็ดี เนื้อหาก็ไม่ยาวเกินไปจนน่าเบื่อเลย รวบรัด 8 ตอนจบ และสนุกมีให้ทิ้งท้ายจนต้องอยากตามไปดูต่อทุกตอนเรื่อยๆ ถ้ามีภาคต่อด้วยก็น่าจะฟินทีเดียวสำหรับใครที่รับชมกันจบแล้ว

Categories