เพื่อนไม่สนิท ผลงานอีกหนึ่งชิ้นจากค่ายหนังไทยอารมณ์ดี GDH ที่หลายคนยอมโดนซื้อใจมาเพราะคาดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะได้ตามเกณฑ์มาตรฐานของทางค่ายแล้ว บวกกับตัวอย่างภาพยนตร์ที่ได้มีการปล่อยออกมาบ้าง จนไม่ต้องตัดสินใจเยอะ ยิ่งมาในแนววัยรุ่นมัธยมแบบนี้ที่น่าจะเป็นทางถนัดของค่ายเองด้วย มีความเป็นคอมเมดี้ สลับกับดราม่า ระหว่างมิตรภาพของรักวุ่นๆ ในวัยเรียน ก็ทำให้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ต้องยอมรับว่า GDH ยิ่งต้องออกผลงานมาบลัฟกับงานเก่าๆ ของตัวเองอยู่เรื่อยๆ จนกลายเป็นอีกโจทย์หนึ่งที่ยากเหมือนกัน และท้าทายพอสมควรเลยทีเดียว
ข้อมูลทั่วไปของหนังเรื่อง เพื่อนไม่สนิท
ชื่อภาพยนตร์ : เพื่อน(ไม่)สนิท (Not Friends)
ผู้กำกับ : อัตตา เหมวดี
นักแสดงหลัก : โทนี อันโทนี, พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ, ธิติยา จิระพรศิลป์
แนวภาพยนตร์ : ตลก / ดรามา
วันที่ออกฉาย : 26 ตุลาคม 2023
เรื่องย่อ เพื่อนไม่สนิท
เพื่อนไม่สนิท เรื่องย่อ เกี่ยวกับเรื่องราวของหนุ่มมัธยมปลายอย่าง เป้ ที่ได้ย้ายเข้ามาในโรงเรียนแห่งใหม่ระหว่างกลางเทอมของชีวิตเด็ก ม.6 และกำลังจะใกล้เตรียมสอบเข้ามหาลัย จนได้มาพบกับเพื่อนใหม่อย่าง โจ ที่เขาไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ จนกระทั่งได้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน และทำให้เพื่อนใหม่คนนี้จากไปอย่างกระทันหัน เป้ ที่เพิ่งรู้จักเขาได้ไม่นาน นึกเกิดแรงบันดาลใจอยากทำหนังสั้น เพื่อรำลึกความหลังระหว่างเพื่อนๆ ที่ไม่ว่าใครก็สนิทกับโจไปทั่วโรงเรียน จะยกเว้นก็มีแต่ เป้ ที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้เป็นเพื่อนของโจเลยสักนิด
เจาะรายละเอียดหนัง เพื่อน(ไม่)สนิท
อีกหนึ่งผลงานจากค่ายดังอย่าง GDH ที่กลับมาเล่าเรื่องราวในสไตล์ของรักวัยรุ่นอีกครั้งกับเรื่อง เพื่อนไม่สนิท ที่ไม่ว่าใครก็คาดหวังกับหนังไทยทุกเรื่องจากค่ายนี้ และเรื่องนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ตามแบบฉบับแบบเดิมๆ ใครที่เป็นแฟนเดนตายของค่ายนี้น่าจะชื่นชอบ แต่ถ้าใครที่คาดหวังอะไรใหม่ๆ ต้องบอกว่าอาจจะต้องรอไปก่อน เพราะนี่คือภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่า คอมเมดี้ ที่ให้กลิ่นอายของความเป็นมิตรภาพวัยรุ่นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่สไตล์การนำเสนอยังคงเหมือนเดิม
การแสดง
สำหรับการแสดงต้องบอกว่าได้แคสติ้งทีมนักแสดงรุ่นใหม่หมดทั้งเรื่อง แต่ทุกคนก็สามารถถ่ายทอดบทบาทและอารมณ์ของตัวละครได้โอเคเลย ทั้ง โทนี อันโทนี และ ใบปอ ธิติยา ที่จับคู่กันมาได้เคมีดีมาก เหมาะกับบทวัยรุ่นแบบนี้จริง แต่อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเพราะเหนือความคาดหมายอย่างมากกับ จั๊มพ์ พิสิฐพล ที่เป็นเรื่องแรกและฉายแสงมาเต็มๆ ถึงแม้ว่าในบทนี้จะไม่ค่อยมีมุมอะไรให้ได้เล่นเยอะขนาดนั้น แต่เสน่ห์ที่ทำให้เรื่อง เพื่อนไม่สนิท พีคขึ้นมาได้ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะผลงานของเขาจริงๆ และน่าจะเป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามองในวงการเลยทีเดียว
การกำกับและการผลิต
ผู้กำกับมาดใหม่ไฟแรงอย่าง อัตตา เหมวดี ก็ทำได้ดีมากๆ การันตีจากผลงานโฆษณารวมไปถึงงานเบื้องหลังมิวสิควีดีโอเพลงดังๆ มากมาย จนได้รับมาให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก แถมยังได้รับหน้าที่เขียนบทของเรื่องนี้อีกด้วย ที่สำคัญยังได้ผู้กำกับ บาส นัฐวุฒิ มาเป็นติวเตอร์คอยช่วยดันผลงานให้ออกมายอดเยี่ยมขึ้นไปอีก
บทภาพยนตร์
สำหรับในส่วนขององค์ประกอบและบทของเรื่อง เพื่อนไม่สนิท ถือว่ามีกิมมิคการเล่าเรื่องค่อนข้างน่าสนใจ แม้โจทย์จะดูเหมือนง่ายและซ้ำเดิมกับสไตล์เจาะชีวิตเด็กวัยรุ่น แต่คราวนี้มีเดิมพันคือความคาดหวังของผู้ชมว่าจะต้องออกมาดีและสนุกกว่าผลงานเรื่องเก่าๆ จนก็ออกมาได้ว่าค่อนข้างดีแต่อาจจะยังไม่ถึงขั้นสุดไปซะทีเดียว บทก็มีความคมคาย เล่นกับจิตใจของตัวละครหนักหน่วงเหมือนกัน ซึ่งมันก็กระทบกับคนดูได้จริงๆ แต่มันอาจจะต้องมีมากกว่านี้สักหน่อย
การถ่ายภาพและภาพสวย
ผลงานของ อัตตา เหมวดี ครั้งนี้ก็ถือว่าผ่านเกณฑ์ ในความเป็นมาตรฐานของค่าย GDH ทั้งองค์ประกอบเกี่ยวกับโปรดักชันก็ใส่รายละเอียดมาแบบเต็มๆ ทำการบ้านมาดี ทั้งงานภาพ การเล่นแสง ถือว่าใช้เข้ากับจังหวะการเล่าเรื่องได้แบบพอดีจนเพิ่มมู้ดโทนอารมณ์ขึ้นได้มากทีเดียว ต้องยกให้กับฝีมือที่ไม่ธรรมดา และน่าจะเป็นอีกหนึ่งคนในวงการภาพยนตร์ไทยที่เล่นกับเทคนิค Long Live Cinema ได้อย่างยอดเยี่ยม
เสียงและดนตรี
ความน่าสนใจของ เพื่อนไม่สนิท Not Friends อีกหนึ่งอย่างคือหนังเรื่องนี้มีเพลงประกอบภาพยนตร์เป็นของตัวเองด้วย นั่นคือเพลง ฉันยังเก็บไว้ ที่ร้องโดย จั๊มพ์ พิสิฐพล ตัวเอกของเรื่องที่ถือว่าเสียงค่อนข้างดีทีเดียว และเพลง DIRECTOR & I ซึ่งทั้งสองเพลงก็ใส่มาในจังหวะที่เหมาะพอดีจนสามารถดันอารมณ์ผู้ชมอย่างเราให้อินกับเรื่องราวตรงหน้าได้มากยิ่งขึ้น ยังไม่รวมถึงเพลงประกอบอื่นๆ ของนักร้องชื่อดังอีกมากมายที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับเพลงของพวกเขากันดีอยู่แล้ว
ธีมและประเด็น
โครงเรื่องหลักๆ ของ เพื่อนไม่สนิท บอกตามตรงว่าแทบไม่มีอะไรซับซ้อน เรียกว่าง่ายเลยก็ได้ เพราะเล่าเกี่ยวกับชีวิตของเด็กคนหนึ่งในช่วงใกล้จบมอปลาย และเข้าสู่วัยมหาลัย จนต้องมาเจอกับบททดสอบเกี่ยวกับมิตรภาพ โมเม้นต์หนึ่งในช่วงชีวิต การเผชิญหน้าจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต ที่เล่าออกมาได้ยังไม่สุดสักเท่าไหร่ จับมาหลายประเด็นแต่ยังไม่ทำให้ลึกได้มากขนาดนั้น นอกจากการที่เราจะได้เห็นมุมตกต่ำของมนุษย์วัยรุ่นคนหนึ่งเท่านั้น
ความประทับใจส่วนตัว
คอมเม้นต์ส่วนตัวขอบอกว่า เพื่อนไม่สนิท ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่หากชื่นชอบก็น่าจะสนุกไปเลย แต่ถ้ารู้สึกกลางๆ ก็อาจจะไม่อินหรือค่อนไปทางเฉยๆ ไม่ได้เรียกว่าดีขนาดนั้น ยอมรับว่าลูกเล่นของตัวหนังสามารถนำเสนอออกมาได้ทันยุคทันสมัย แต่ก็ค่อนข้างจะเกินๆ ไปหน่อย มีบางมุมที่ทำให้ได้นึกถึงช่วงเวลาในวัยเรียนได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้เข้าไปจี้ใจดำได้มากขนาดถึงจุดพีคขนาดนั้น สรุปว่าอาจจะเป็นหนังที่ดี แผ่ได้หลายประเด็น แต่ยังไม่สุดในประเด็นไหนสักเท่าไร
คะแนนการประเมิน
IMDb 7.5/10
ภาพรวม 6/10
การเล่าเรื่อง 6/10
การแสดง 7/10
เทคนิคงานสร้าง 7/10
บทภาพยนตร์ 6/10
เปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่น
ช่วงหลังมานี้เราจะเห็นว่า GDH จะทำแต่ภาพยนตร์แนวที่ตัวเองถนัดไปเสียหมด วนอยู่กับกรอบเดิม ทั้งคอนเส็ปต์และโทนเรื่อง จะเห็นเลยว่าหยิบมาทำคล้ายๆ เดิมบ่อยเกินแล้ว จนทำให้มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับผลงานของทางค่ายในช่วงหลายปีมานี้ว่ายังไม่ได้เห็นอะไรใหม่จากค่ายนี้เลย แถมบางเรื่องก็ดูจะทำให้ดรอปลงไปด้วยซ้ำ อย่างเรื่อง เพื่อนไม่สนิท ก็ทำให้เห็นได้เลยว่าชั้นเชิงดูดรอปลงไปเยอะหากเอาไปเทียบกับ Masterpiece หลายๆ เรื่องของค่ายนี้
สรุปการรีวิวหนังเรื่อง เพื่อนไม่สนิท
หากมองที่ข้อความที่ต้องการจะสื่อจากภาพยนตร์เรื่อง เพื่อนไม่สนิท ก็ถือว่ามีความทรงพลังอยู่พอสมควร ทั้งประเด็นเกี่ยวกับมิตรภาพ ความฝัน ชีวิตการเป็นวัยรุ่น ก็รู้สึกว่าหลายฉากส่งอิมแพ็คถึงคนดูได้จริง เพราะใช้ธีมของการย้อนวันวานกลับไปสำรวจชีวิตวัยเรียนอีกครั้ง และไม่ว่าใครก็เคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น ความสำเร็จ การสูญเสีย และหลายอารมณ์ ที่ส่งพลังให้เรื่อง Not Friends เพื่อน(ไม่)สนิท ออกมาดูดี แต่ยังไม่ได้ประทับใจถึงขั้นสุดได้สักทีเดียว
ภาพรวมอาจจะเป็นเพียงแค่หนังอีกหนึ่งเรื่องที่มีมาตรฐาน และลายเซ็นต์ ตามแบบฉบับของความเป็น จีดีเอช ประเด็นหนังมีความชัดเจน แต่ยังไม่ค่อยมีความน่าสนใจเพื่อใช้ดึงดูดผู้ชมได้มากขนาดนั้น บางมุมพอเข้าใจได้ บางมุมก็ยังไม่ค่อยกลมกล่อม หากได้เกลาเรื่องเพิ่มให้มันคมกว่านี้อีกสักหน่อยก็อาจจะเป็นเรื่องราวที่เพอร์เฟ็กต์ไปเลยก็ได้ แต่จะชอบหรือไม่ยังไงก็ลองไปติดตามรับชมกัน