รีวิว The Menu (2022) เมนูสยอง

ภาพยนตร์เกี่ยวกับการทำอาหารมาให้เราได้รับชมกัน

นานๆ ทีจะได้มีภาพยนตร์เกี่ยวกับการทำอาหารมาให้เราได้รับชมกัน The Menu เมนูสยอง ที่บอกเลยว่าเนื้อเรื่องไม่ธรรมดาจริงๆ บวกกับ ทีมแคสติ้งนักแสดงที่ยิ่งทำให้ในเรื่องมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม มาเตรียมพร้อมรับรสชาติที่จัดจ้าน กับคอร์สอาหารครั้งนี้ที่บอกเลยว่า ความตลกร้ายและอื่นๆ อีกมากมายที่คุณจะไม่เชื่อว่าอัดแน่นอยู่ในหนังเรื่องนี้ทั้งหมดได้ยังไงกัน

The Menu เมนูสยอง จะเล่าผ่านเรื่องราวของครูหนุ่มสาวอย่าง มาร์โกต์ กับ ไทเลอร์ ที่เลือกที่จะเดินทางไปออกเดทยังเกาะส่วนตัว แล้วมาทานอาหารในภัตตาคารเลื่องชื่ออย่าง ฮาวธอร์น ที่มีการจัดการและบริหารดูแลโดยเชฟเซเลบริตี้ระดับโลก สโลวิก ที่เขาได้คิดคนและเตรียมเมนูอาหารสุดหรูและอลังการที่สุดมาเพื่อต้อนรับคู่รักกระเป๋าหนัก โดยจะได้คอนเส็ปต์ทางด้านศิลปะบนจานอาหารสุดหรูดูแพง แต่หารู้ไม่ว่าองค์ประกอบอาหารนั้นแอบซ่อนด้วยเรื่องราวประหลาดที่มอบให้กับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น

ยอมรับเลยว่านี่คือภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อีกหนึ่งเรื่องที่มีการเล่าเรื่องแบบลูกเล่นชั้นเชิงจากผู้กำกับอย่าง มาร์ค ไมลอด หลังจากที่ทำพลาดกับภาพยนตร์ครั้งเก่าของเขามาแล้ว และได้ไปเก็บตัวอยู่ในวงการซีรีส์ทางทีวีมากว่า 10 ปี งานนี้จึงได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับโชว์ฝีไม้และมือการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งก็ดูเหมือนจะพัฒนามากขึ้นเลยทีเดียว แถมยังมีเครดิตจากความไว้วางใจของซีรีส์เรื่องใหญ่ๆ มากมาย ที่เขาเคยร่วมทำงานกันอีกด้วย

ทั้งทักษะและฝีมือที่คมกริบ บวกกับชั้นเชิงในการนำเสนอเรื่องราว การใช้จังหวะลูกเล่น และโทนหนังที่ทำให้มันสอดคล้องกันอย่างลงตัว ซึ่งอีกส่วนหนึ่งก็ต้องยกให้เครดิตกับทีมเขียนบท ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีทั้ง เซ็ธ เรส และ วิล เทรซีย์ ที่มีผลงานและความเป็นมืออาชีพระดับโลก แบบไม่ต้องพูดถึงอะไรเยอะอยู่แล้ว

สำหรับเรื่องนี้ถึงจะไม่ได้ดูมีความแปลกใหม่อะไรในวงการภาพยนตร์มากขนาดนั้น เพราะเราก็ได้เห็นว่าภาพยนตร์แนวนี้ถือว่ามีออกมาให้เราได้รับชมเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่สำหรับ The Menu เมนูสยอง น่าจะมีความโดดเด่นอยู่ที่ชั้นเชิงในการนำเอาโครงสร้างแบบที่เราคุ้นเคยกับหนังแนวทำอาหาร มาผสมกับความตลกร้ายของชนชั้นคนมีอันจะกินที่สามารถเลือกทานคอร์สอาหารราคาแพงๆ ได้ จนเราจะได้เห็นเมนูแปลกตาที่สุดจะอลังการผ่านเรื่องราวนี้

แน่นอนว่าเมื่อหนังมาในแนวทางนี้ก็ต้องเน้นขายเรื่องการสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำด้านสังคม ซึ่งก็ให้เราเห็นกันแบบโจ่งแจ้งเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าการเล่นประเด็นในเรื่องนี้ค่อนข้างจะล้าสมัยไปแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับหรือว่าการนำเสนอของเรื่องราวในครั้งนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะว่ามีการใส่น้ำหนักของแต่ละเรื่องในการเจาะประเด็นไว้ได้แบบพอดี ไม่มีอะไรที่ดูล้นเกิน หรืออะไรที่ดูน้อยเกินไป เหมือนกับเป็นเรื่องราวที่ตบหน้าคนดูได้อย่างพอดีแรง

ในส่วนของทีมนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องบอกว่า แคสติ้งมาได้เข้ากับบทดีมาก เรล์ฟ ไฟนส์ ที่ถือว่าเป็นมืออาชีพสุดๆ อารมณ์ต่างๆ ที่สื่อออกมาผ่านตัวละครนั้นถือว่าทรงพลังมาก ทั้งความซับซ้อนในมิติและอารมณ์ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาได้ดีขนาดนี้ หรือจะเป็น อันยา เทเลอร์-จอย ที่แม้จะดูเป็นคาแรคเตอร์ที่เดาทางง่าย แต่ก็ทำให้ผู้ชมทุกท่านหลงรักได้ไม่ยากเลย

นิโคลัส โฮลต์ ก็ได้มาท้าทายการทำงานแบบเดิมๆ ของเขาเหมือนกัน เพราะเลือกรับในบทบาทที่บอกเลยว่าซับซ้อนสุดๆ จนแฟนๆ ที่ติดตามเรื่องนี้อาจจะงงว่าเขาเป็นอะไรแน่ เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ อาจจะด้วยความที่สามารถถ่ายทอดความน่าสงสัย ความน่าหมั่นไส้และหงุดหงิดเต็มไปหมด แต่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ค่อนข้างจะหลากอารมณ์กันเลยทีเดียว

นอกจากนี้แล้วหนังเรื่องนี้ก็ยังได้นักแสดงสมทบอีกมากมาย พี่มาช่วยสร้างสีสันและบรรยากาศยกระดับของการเป็นภาพยนตร์แนวอาหารแบบเดิมๆ อย่างดี เจเน็จ แม็คเทียร์,ฮง เชา ,จอห์น เลอกิซาโม หรือ จูดิธ ไลต์ ที่ตัวละครก็มีซีนเฉพาะ และน่าสนใจกันทั้งนั้น ต้องยอมรับเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นหนักในซีนของทีมนักแสดงเป็นหลักจริงๆ และทำออกมาได้ดีมาก

ในภาพรวมนั้นก็ถือว่าเรื่อง The Menu เมนูสยอง เป็นภาพยนตร์แนวอาหารที่ไม่ได้เน้นอาหารสักเท่าไหร่ แต่จะให้น้ำหนักไปกับบทที่ค่อนข้างจะเสียดสีสังคมมากกว่านั้น ซึ่งก็ให้น้ำหนักมาที่พอดีไม่เยอะไม่น้อยเกินไป แต่บางท่านอาจจะไม่ชอบจากการที่เพราะแนวนี้ หาชมได้ง่ายไปแล้วในยุคนี้ แล้วไม่ได้แปลกใหม่อะไร ไปถึงอย่างนั้นก็มาทดแทนด้วยเสน่ห์และการแสดงมืออาชีพของทีมนักแสดงในเรื่องนี้ที่เข้ามาประคองเอาไว้อย่างดี จะชื่นชอบหรือไม่นั้นก็ต้องลองไปติดตามรับชมกัน

Categories