The Whale (2022) เหงา เท่า วาฬ รักที่พัง หมดศรัทธา นำมาซึ่งชีวิตที่ไร้ความหมาย

เหงา เท่า วาฬ อีกหนึ่งตัวเต็งสำหรับภาพยนตร์ที่ดีที่สุดแห่งปี

The Whale เหงา เท่า วาฬ อีกหนึ่งตัวเต็งสำหรับภาพยนตร์ที่ดีที่สุดแห่งปี 2022 เลยก็ว่าได้ ที่ทั้งเป็นหนังมีพล็อตดีๆ แล้วยังต้องยกให้กับการแสดงของฝี มือนักแสดงนำอย่าง เบรนแดน เฟรเซอร์ กลับมาสู่วงการภาพยนตร์อีกครั้งหลังจากที่ได้เจอชีวิตในช่วงมรสุมก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรีจริงๆ กับฝีมือการแสดงและถ่ายทอดอารมณ์อย่างเป็นมืออาชีพ

ข้อมูลทั่วไปของหนังเรื่อง เหงา เท่า วาฬ

ชื่อภาพยนตร์ : The Whale เหงา เท่า วาฬ

ผู้กำกับ : ดาร์เรน อโรนอฟสกี

นักแสดงหลัก : เบรนแดน เฟรเซอร์, ซาดี้ ซิงค์, ฮง เชา

แนวภาพยนตร์ : ดราม่า

วันที่ออกฉาย : 16 กุมภาพันธ์ 2023

เรื่องย่อ เหงา เท่า วาฬ

The Whale เหงา เท่า วาฬ เป็นเรื่องราวของชีวิตชายวัยกลางคนออย่าง ชาร์ลี ที่เขามีอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษกับร่างกายที่อ้วนเข้าขั้นวิกฤตแล้ว เพราะมีน้ำหนักตัวกว่า 600 ปอนด์ ที่มาจากการทานอาหารเยอะเกิน เพราะป่วยจิตตั้งแต่ถูกทอดทิ้งไปจากคนรักเก่า ที่เป็นแฟนหนุ่ม และทำให้ตัวเขาต้องอยู่กับความทุกข์อันแสนเจ็บปวดทนทรมาน ขณะเดียวกันเลยคิดได้ว่าควรจะกลับไปสานสัมพันธ์กับลูกสาววัยรุ่นของตัวเองอีกครั้ง เพราะคิดว่าคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้

เจาะรายละเอียดหนังเรื่อง เหงา เท่า วาฬ

สำหรับตัวบทหนังของเรื่อง The Whale เหงา เท่า วาฬ ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างใช้การทำความเข้าใจพอสมควร แถมยังต้องวิเคราะห์เยอะอีกด้วย ทั้งจากเรื่องของภาษาที่มาจากต้นฉบับทำให้ต้องประดิษฐ์ออกมาเป็นไดอะล็อกบทพูดของตัวละครให้มีความเข้ากันมากขึ้น และเป็นอะไรที่ผู้ชมจะได้เก็บมาคิดทบทวนตามอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นหนังที่ดูยากเขาถึงได้ยากเหมือนหนังอินดี้ขนาดนั้น ยังคงมีความเป็นหนังที่รับชมได้ทั่วไป ไม่ใช่ในเชิงงานศิลป์ซะทีเดียว ดังนั้นเราลองไปเจาะไปทีละเรื่องกันเลยดีกว่า

การแสดง

องค์ประกอบสำคัญที่เป็นตัวเดินเรื่องขับเคลื่อน The Whale เหงา เท่า วาฬ ก็คงต้องยกให้กับทีมนักแสดง และที่ต้องฉายแสงให้คือ  เบรนแดน เฟรเซอร์ ท่านนี้จริงๆ กับการแสดงที่บาดลึก เข้าถึงหัวจิตหัวใจ ของคาแรคเตอร์ผู้ป่วยติดเตียงคนนี้ได้อย่างไม่มีอะไรกั้น แม้ว่าเขาจะหายไปจากวงการฮอลลิวูดอยู่นานจากปัญหาบางอย่าง จนถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนและโดนแบนในที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นการกลับมาครั้งนี้ก็ถือว่าสมศักดิ์ศรี และเป็นการพิสูจน์ตัวเองว่าเขานั้นเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดงจริงๆ และไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นที่ทำได้ดี เพราะนักแสดงทุกคนในเรื่องก็ยังสามารถรับส่งอารมณ์กันได้อย่างดีมาก ทั้ง ซาดี้ ซิงค์ สั่งรุ่นใหม่ที่ออกมาปล่อยพลัง โชว์ศักยภาพ ได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกนักแสดงอย่าง ซาดี้ ซิงค์ ที่รับหน้าที่สาวน้อยวัยใสและเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติสุด แต่กลับมาความหมายในทุกตอน

การกำกับและการผลิต

The Whale เหงา เท่า วาฬ เป็นผลงานการกำกับของ ดาร์เรน อโรนอฟสกี ผู้กำกับมากฝีมือที่เราจะได้เห็นเขาสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในแง่บวกและแง่ลบกันบ่อยๆ ในหลายเรื่องผลงานที่ผ่านมา หลังจากห่างหายจากการกำกับภาพยนตร์ไปหลายปี ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้เราจะได้เห็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่ดูซอฟต์ลงมากทีเดียว ลีลาก็จัดจ้านจัดเต็มเหมือนเดิม รักษาเอกลักษณ์โดดเด่นของตนเองไว้ได้เหมือนเดิมเลย

บทภาพยนตร์

ในส่วนของบทหนัง The Whale เหงา เท่า วาฬ นั้นได้มีการดัดแปลงมาจากต้นฉบับที่เป็นบทละครเวทีที่เคยออกแสดงไปเมื่อ 2012 ที่ผ่านมา ซึ่งในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้เองได้ ซามูแอล ดี. ฮันเตอร์ เข้ามาร่วมเขียนบทหนังและบทตัวละครด้วย เป็นเรื่องที่ดีมากเพราะบทประพันธ์ของเจ้าของมาเองแบบนี้เข้าถึงอารมณ์ได้อย่างถูกต้องตามสำเนาต้นฉบับอยู่แล้ว และยังบวกกับการใส่วิชั่นใหม่ๆ จากทางผู้กำกับเองด้วย ก็ทำให้มีมิติน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และเข้ากันกับหนังบนจอใหญ่ได้

การถ่ายภาพและโปรดักชั่น

The Whale เหงา เท่า วาฬ ในด้านของโปรดักชั่นนั้น ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย ออกแนวจะหยิบเอาบรรยากาศแบบละครเวทีมาใส่อยู่ในจอแก้วซะมากกว่า เพราะหนังเรื่องนี้จะเน้นการเล่าผ่านฉากตลอดทั้งเรื่อง โปรดักชั่นของเรื่องเลยมีแค่ฉากหลักอยู่ไม่กี่ฉากเท่านั้น แค่เซ็ตมาฉากเดียวก็ถ่ายได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ ถ้าให้ชื่นชมก็ต้องยกให้เรื่องของทีมคอสตูมมากกว่าที่แต่งหน้าตาและทำผมให้กับตัวละครต่างๆ ในเรื่องได้อย่างเข้าถึงคาแรคเตอร์ดีทีเดียว

ธีมและประเด็น

พล็อตหนังเรื่อง The Whale เหงา เท่า วาฬ อาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรเลย หนังจะเล่นกับความธรรมดาๆ ของชีวิตคนๆ หนึ่ง ที่มันสะท้อนความเป็นจริงของผู้ป่วยโรคอ้วนได้แบบแทบจะร้อง คุณต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าคนอ้วนจะมีความรู้สึกแบบนี้ ซึ่งหนังได้ตีแผ่ความจริงออกมาให้สังคมได้รับรู้ในอีกแง่มุมหนึ่ง และให้บรรยากาศที่ดำดิ่ง หดหู่ ทั้งเหงา และหลายความรู้สึกอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ยังมีโมเมนต์ที่ให้เราได้อมยิ้มตามไปด้วย เราจะได้เห็นมุมมองความธรรมดาของชีวิตคนเรา ว่าที่สุดแล้วทุกคนก็ไม่ได้มีใครที่พิเศษไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย

ความประทับใจส่วนตัว

น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดดราม่าที่คุ้มค่าเสียเวลาในการรับชมแน่นอน The Whale เหงา เท่า วาฬ มันไม่ใช่แค่หนังแต่รู้สึกว่าสะท้อนได้หลายอย่าง กระทั่งผู้ป่วยโรคอ้วนที่ไม่ใช่แค่ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพกายเท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อสุขภาพจิตของตัวพวกเขาเองด้วย ซึ่งหนังหยิบประเด็นในมุมที่ว่าโรคอ้วนบางทีก็ไม่ได้เกิดแค่จากปัญหาการกินพฤติกรรมการทานอาหารอย่างเดียว แต่มันมีปัจจัยอื่นร่วมที่ทำให้เข้าเลือกที่จะทำแบบนั้น เลือกที่จะกินแบบนั้น เป็นอะไรที่ไม่มีที่ไหนตีแผ่มาเลยจนกระทั่งถึงเรื่องนี้ ด้านองค์ประกอบอื่นๆ ของหนังก็เพอร์เฟ็กต์ไร้ที่ติ นักแสดงเล่นดี ทำถึง ฉาก มู้ดโทนทำถึงทุกอย่างเลย

คะแนนการประเมิน

IMDb : 7.6/10

ภาพรวม : 8/10

การเล่าเรื่อง : 7/10

การแสดง : 10/10

เทคนิคงานสร้าง : 8/10

บทภาพยนตร์ : 7/10

เปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่น

ส่วนตัวหากนำ The Whale เหงา เท่า วาฬ ไปเทียบกับภาพยนตร์แนวดราม่าเรื่องอื่นๆ ก็ถือว่าค่อนข้างดีและเทียบได้กับหลายเรื่องเลย แต่อาจจะให้อารมณ์คนละแบบกับภาพยนตร์ดราม่าแถบๆ ฝั่งโซนเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไปซะหน่อย เพราะเรื่องนี้จะมีความเป็นไลฟ์สไตล์คนยุโรปมากกว่า มุมมองความคิดและการกระทำต่างๆ ของตัวละครเลยเลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็น ในคนละทางกัน แต่ก็น่าจะเป็นอีกเรื่องที่ขึ้นหิ้งได้เลยสำหรับหนังแนวดราม่า เพราะให้อะไรกับผู้ชมได้เยอะมาก นอกจากอารมณ์ร่วมและความเป็นไปของแต่ละตัวละครสตอรี่ในเรื่องแล้ว ยังสะท้อนความจริงในสังคม ปัญหาของคนเป็นโรคอ้วนและปมภายในจิตใจของพวกเขาได้อย่างดีมากๆ เลยทีเดียว

สรุปการรีวิวหนังเรื่อง เหงา เท่า วาฬ

โดยรวมนั้นต้องบอกว่า The Whale เหงา เท่า วาฬ นั้นอาจจะไม่ใช่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อะไรขนาดนั้น ไม่ได้ใช้โปรดักชั่นยิ่งใหญ่เลย แต่ความดีงามของภาพยนตร์เรื่องนี้คือองค์ประกอบหลายอย่างทีเข้ากันได้ดีมาก ทั้งทีมนักแสดงที่เล่นดีจนกลายเป็นออสการ์แห่งปีไปแล้ว ทั้งบทหนัง บทตัวละคร ที่ช่วยส่งอารมณ์ควบคู่กันไปได้อย่างถึงมากๆ หลายอย่างลงตัวดีไปหมด มันเลยทำให้แม้จะเป็นหนังที่มาแบบเงียบๆ แต่กลายเป็นม้ามืดที่มีฟอร์มยอดเยี่ยมมากๆ ในปี 2022 และอยากให้ทุกท่านได้ลองไปติดตามรับชมกันดูว่าจะถูกใจมากน้อยแค่ไหน

Categories